เทือกเขาแอลป์สในภูมิภาคจูบุของญี่ปุ่นมีฉายาว่า "หลังคาของญี่ปุ่น"
ภาพของเทือกเขาที่ใหญ่โตและหมู่บ้านที่ดูเรียบง่ายดูราวกับเป็นดินแดนแห่งความฝันเมื่อปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน
หากอยากสัมผัสกับบรรยากาศและวัฒนธรรมอันอบอุ่นในฤดูหนาว ขอเชิญทุกท่านมาเที่ยวที่ภูมิภาคจูบุกันได้

PHOTOGENIC

สวนเค็นโรคุเอ็น

สวนไคยูชิกิที่เป็นหนึ่งใน "สามสวนญี่ปุ่นชื่อดังในญี่ปุ่น"
สวนเค็นโรคุเอ็นเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเมืองคานาซาวะ สร้างขึ้นในยุคเอโดะ และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "สามสวนญี่ปุ่นชื่อดังในญี่ปุ่น" โดยสวนที่ได้รับเลือกแต่ละแห่งจะได้มีชื่อเสียงต่างกันไปจากภาพบรรยากาศสวยงามของแต่ละสวนทั้งสวนที่ชม"ดวงจันทร์"ได้สวยที่สุด, สวนที่ชม"หิมะ" ได้สวยงาม และ สวนที่ชม"ดอกไม้"ได้สวยที่สุด รวมกันแล้วเป็นสามสวนนั้นเอง โดยสวนเค็นโรคุเอ็นได้รับตำแหน่งสวนแห่ง“หิมะ” นั้นเอง นอกจากนี้ต้นไม้หลายต้นภายในสวนจะมี "ยูคิสึริ" ที่เป็นเทคนิคการบำรุงรักษาต้นไม้แบบดั้งเดิม ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ต้นไม้โค่นล้มเมื่อเจอหิมะทับถมในฤดูหนาว วิธีทำคือ ตรึงให้กิ่งไม้อยู่กับที่ด้วยเชือกและเสา โดยโยงเชือกแต่ละเส้นจากด้านบนให้แผ่ออกเป็นรัศมีให้คล้ายกับเสื้อคลุมที่แผ่ออก เป็นไฮไลท์สำคัญที่จะได้เห็นฝีมือของนักจัดสวนญี่ปุ่น การทำยูคิสึริจะทำในเดือนพฤศจิกายนก่อนที่จะมีหิมะตก และจะนำเชือกและเสาออกในเดือนมีนาคมซึ่งเป็นช่วงที่หมดหน้าหิมะ นับเป็นสัญลักษณ์ของเมืองคานาซาวะในฤดูหนาวกันเลยทีเดียว
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ JR คานาซาวะ เดินทางด้วยรถบัสประมาณ 10 นาที แล้วลงที่ป้าย "เค็นโรคุเอ็นชิตะ-คานาซาวะโจ"/จากสถานีรถไฟ JR คานาซาวะ เดินทางประมาณ 10 นาที
สวนเค็นโรคุเอ็น


ปราสาทมัตสึโมโตะ (เทศกาลน้ำแข็งแกะสลัก)

ปราสาทอันเป็นสมบัติของชาติที่ปกคลุมด้วยหิมะและดินแดนในฝันที่มีน้ำแข็งแกะสลักที่ใต้ปราสาท
ปราสาทมัตสึโมโตะเป็นสมบัติของชาติในญี่ปุ่น มีภาพที่งดงามจากสีที่ตัดกันระหว่างสีดำจากหลังคาปราสาทกับสีขาวจากหิมะที่คิตะแอลป์ส และมีไฮไลท์อยู่ที่ดีไซน์และหอคอยปราสาท ในฤดูหนาวของทุกปีจะมีงานกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดอย่างเทศกาลน้ำแข็งแกะสลักที่ปราสาทมัตสึโมโตะ ในเทศกาลจะมีผลงานน้ำแข็งแกะสลักฝีมือทีมแกะสลักที่มีสมาชิกหลายสิบคนจากทั่วประเทศโดยเฉพาะจังหวัดนางาโนะจัดแสดงที่กลางแจ้ง พร้อมด้วยการจัดแสงไฟในยามราตรี ซึ่งจะสร้างบรรยากาศให้ดูราวกับเป็นดินแดนในฝัน
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมง ลงที่สถานี JR มัตสึโมโตะ แล้วเดินต่อ 15 นาที/ลงที่สถานี JR มัตสึโมโตะ นั่งรถบัสวน ลงที่ป้าย "มัตสึโมโตะโจ-ชิโจฉะมาเอะ"
ปราสาทมัตสึโมโตะ


จุดชมวิวบนยอดเขา Sky Terrace

สถานที่ใหม่ เปิดให้บริการ ณ เดือนธันวาคม 2020 มีระเบียงสร้างใหม่สำหรับชมทิวทัศน์พานอราม่าในหน้าหนาว
Sky Terrace เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาคุรุมะยามะ เปิดให้บริการ ณ เดือนธันวาคม 2020
ที่ยอดเขาคุรุมะยามะที่มีความสูง 1,925 เมตร คุณสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ, คิตะแอลป์ส, จูโอแอลป์ส, มินามิแอลป์ส และยัตสึงะทาเกะได้
เพื่อให้ผู้คนสามารถเพลิดเพลินกับการชมวิวได้อย่างเต็มที่ จุดชมวิวแห่งนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างทางเดินขึ้นจุดชมวิวที่ผู้ที่นั่งเก้าอี้รถเข็นสามารถสัญจรได้สะดวก
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ JR นาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 3 ชั่วโมงจนถึงสถานี JR จิโนะ แล้วเดินทางต่อด้วยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง
จุดชมวิวบนยอดเขา Sky Terrace


แอ่งเซ็นโจจิกิ จูโอแอลป์

แหล่งท่องเที่ยวสุดพิเศษ ณ ความสูง 2,612 เมตร เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งเมื่อประมาณ 2 หมื่นปีก่อน
สำหรับคนที่อยากชมธรรมชาติขนาดใหญ่ ขอแนะนำ "แอ่งเซ็นโจจิกิ" แอ่งแห่งนี้อยู่ที่ระดับความสูง 2,612 เมตรใต้ยอดเขาโฮเค็นดาเกะของเทือกเขาจูโอแอลป์ มีลักษณะคล้ายชามข้าว เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งเมื่อประมาณ 2 หมื่นปีก่อน มีทิวทัศน์ตระการตาที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยเฉพาะหน้าหนาวที่จะมีภาพของหิมะอันขาวโพลน
นอกจากนี้จะมีผู้คนมากมายที่สวมรองเท้าหิมะขึ้นมาชมทิวทัศน์และเล่นหิมะกันมากมาย
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถบัสด่วนไปทางแยกต่างระดับโคมางาเนะประมาณ 150 นาที เปลี่ยนไปขึ้นรถเมล์ แล้วเดินทางต่อประมาณ 30 นาที แล้วเปลี่ยนไปใช้บริการของโรปเวย์
แอ่งเซ็นโจจิกิ
จูโอแอลป์


นาบานะ โนะ ซาโตะ

ที่นี่จะมีงานอิลลูมิเนชั่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
และยังซุ้มแสงไฟที่มีความยาวกว่า 200 เมตรที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "ทิวทัศน์งามของโลกที่ต้องไปให้สักครั้งในชีวิต"
นาบานะโนะซาโตะเป็นสวนสนุกธีมสวนดอกไม้ที่จะมีงานอิลลูมิเนชั่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยจะจัดในยามกลางคืนตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูใบไม้ผลิของทุกปี
นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์อยู่ที่ซุ้มแสงไฟ "ฮานะไคโร" ที่มีความยาวกว่า 200 เมตร ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นทิวทัศน์งามของโลก
งานอิลลูมิเนชั่นต่าง ๆ ภายในสวนจะพาผู้เข้าชมทุกคนหลุดเข้าไปในดินแดนแห่งแสงในจินตนาการ เหมาะสำหรับคนที่มาเป็นคู่รักหรือครอบครัว
*ระยะเวลาในการจัดงานอิลลูมิเนชั่น: ปลายเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤษภาคม
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า นั่งรถบัสประมาณ 30 นาที
นาบานะ โนะ ซาโตะ

ACTIVITY

ทาคาสุสโนว์พาร์ค/ไดน่าแลนด์

ลานสกีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก
เหมาะสำหรับผู้ที่มาเป็นครอบครัว สามารถเล่นได้ทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ มีบริการเวลากลางคืนด้วย
ทาคาสุสโนว์พารค์เป็นลานสกีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก มีสนามสกี 12 แห่งที่สามารถใช้บริการได้ทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ มี 3 แห่งที่มีความยาว 4,000 เมตร ให้ได้เล่นสกีแบบความเร็วสูง รวมถึงมีพื้นที่หรับเด็กให้ผู้ที่มาเป็นครอบครัวสามารถใช้บริการได้สะดวก ส่วนผู้ที่ไม่ถนัดในการเล่นสกี จะมีรถเคเบิลคาร์ 15 ที่นั่งพาขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดเขา Takasu Terrace เป็นระยะทาง 2,700 เมตร ซึ่งบนสถานที่ดังกล่าวคุณจะได้ชมเมฆหมอกและหิมะอันงดงาม ส่วนที่ไดน่าแลนด์ที่อยู่ใกล้กับลานสกีจะมีสนามสกีถึง 21 แห่ง ให้บริการในเวลากลางคืนจนถึงเวลา 23:00 น. ถือเป็นลานสกีที่มีระยะเวลาให้บริการมากที่สุดในญี่ปุ่น และในฤดูหนาวจะมีงานเทศกาลดอกไม้ไฟอันโรแมนติกให้ได้ชมกันอีกด้วย
การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า นั่งรถบัสด่วนประมาณ 100 นาที ลงรถที่สถานีบริการฮิรุกาโนะโคเก็น เปลี่ยนไปขึ้นรถ shuttle bus /จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ เดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 150 นาที
ทาคาสุสโนว์พาร์ค/ไดน่าแลนด์


ลานสกีฮิรุกาโนะโคเก็น

ลานสกีแห่งนี้มีสวนสำหรับเด็ก เหมาะที่จะพาเด็กมาลองสัมผัสและเล่นหิมะเป็นครั้งแรก
ลานสกีฮิรุกาโนะโคเก็นเป็นลานสกีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มาเป็นครอบครัวและผู้เริ่มต้นเล่นสกี
ลานสกีแห่งนี้มีสนามสกี 7 แห่ง ซึ่งสามารถใช้บริการได้ทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ที่อยู่ในระดับกลาง มีโรงเรียนฝึกสกีและสโนบอร์ดที่เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปสามารถเข้าเรียนได้ ส่วนสนามสกีก็มีความกว้างและไม่ชันมาก เหมาะสำหรับการเล่นสกีทั้งครอบครัว
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์สกีให้เช่าอย่างหมวก, แว่นตา, ถุงมือ และเสื้อผ้าด้วย คุณจึงไม่จำเป็นต้องซื้อหรือหาอุปกรณ์มาเอง สำหรับผู้ที่ไม่ถนัดในการเล่นสกี ก็สามารถสนุกไปกับการเล่นสไลเดอร์และการเล่นหิมะได้เช่นกัน เป็นสถานที่ที่เหมาะจะพาเด็กมาสัมผัสกับหิมะครั้งแรก
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า นั่งรถบัสด่วนประมาณ 100 นาที ลงรถที่สถานีบริการฮิรุกาโนะโคเก็น จากนั้นลงรถและเปลี่ยนไปขึ้นรถ shuttle bus /จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ เดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 150 นาที
ลานสกีฮิรุกาโนะโคเก็น


ชินโฮทากะโรปเวย์

มีจุดเด่นที่รถเคเบิลคาร์กอนโดล่าสองชั้นเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่น สามารถมองเห็นคิตะแอลป์สที่อยู่เบื้องล่างได้จากระดับความสูง 3,000 เมตร
ชินโฮทากะโรปเวย์อยู่พื้นที่ของชินโฮทากะออนเซ็น แบ่งเส้นทางออกเป็น 2 ส่วน และประกอบด้วย 4 สถานี โดยเฉพาะส่วนที่เดินทางขึ้นไปยังยอดเขาสูง 2,156 เมตร ได้มีการเปิดตัวรถกอนโดล่าสองชั้นที่มีเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นในรูปลักษณ์ใหม่ ณ เดือนกรกฎาคม 2020 ซึ่งสามารถมองเห็นคิตะแอลป์สที่อยู่เบื้องล่างได้จากระดับความสูง 3,000 เมตร ที่จุดชมวิว คุณจะได้ชมทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาที่เป็นที่นิยมสำหรับนักปีนเขาอย่างภูเขายาริงะทาเกะและคาสะงะทาเกะ ซึ่งได้รับ 2 ดาวจากคู่มือมิชลินกรีนไกด์จาปอง ในฤดูหนาวคุณจะได้พบกับ "กำแพงหิมะ" สูง 3 เมตรที่สวนเซ็นโงคุเอ็นจิซึ่งอยู่ด้านนอกสถานีนิชิโฮทากะงุจิ มีเสน่ห์สำคัญที่ลักษณะที่คล้ายกับเขาวงกตขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และมีกิจกรรมที่มีเฉพาะในฤดูหนาวอย่างการเดินชมกำแพงหิมะแบบสบาย ๆ
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟหรือรถบัสประมาณ 150 นาที ลงที่สถานี JR ทาคายามะ แล้วเดินทางต่อด้วยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง
ชินโฮทากะโรปเวย์


จูโอแอลป์สโคมางาทาเกะโรปเวย์ (กิจกรรมเดินด้วยรองเท้าหิมะ)

สนุกไปกับการสวมรองเท้าหิมะชมทิวทัศน์ฤดูหนาวบนโรปเวย์ที่ชันที่สุดในญี่ปุ่น
จูโอแอลป์สโคมางาทาเกะโรปเวย์มีเส้นทางจากชิราบิไดระที่ระดับความสูง 1,662 เมตรไปยังเซ็นโจจิกิที่ระดับความสูง 2,612 เมตร เท่ากับว่ามีระดับความสูงต่างกัน 950 เมตร ซึ่งถือว่าชันที่สุดในญี่ปุ่น
จากโรปเวย์คุณสามารถมองเห็นเทือกเขามินามิแอลป์สที่ปกคลุมด้วยหิมะ, น้ำตกน้ำแข็ง และแท่งน้ำแข็ง รวมถึงคุณจะได้สวมรองเท้าหิมะชมแอ่งเซ็นโจจิกิบนยอดเขาที่มีหิมะที่กำลังละลายและป่าบริเวณสถานีชิราบิไดระที่เชิงเขาอีกด้วย
ขอเชิญทุกคนมาชมทิวทัศน์ฤดูหนาวที่มีความชันมากที่สุดในญี่ปุ่นและอยู่ที่ระดับความสูง 2,612 เมตรไปกับจูโอแอลป์สโคมางาทาเกะโรปเวย์
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถบัสด่วนไปทางแยกต่างระดับโคมางาเนะประมาณ 150 นาที เปลี่ยนไปขึ้นรถเมล์ แล้วเดินทางต่อประมาณ 30 นาที แล้วเปลี่ยนไปใช้บริการของโรปเวย์
จูโอแอลป์สโคมางาทาเกะโรปเวย์ (กิจกรรมเดินด้วยรองเท้าหิมะ)

HOTSPRING

หมู่บ้านโอคุฮิดะออนเซ็น

หมู่บ้านออนเซ็นกลางแจ้งที่มีคิตะแอลป์สโอบล้อม มีบ่อน้ำร้อนที่มากที่สุดในญี่ปุ่น
หมู่บ้านโอคุฮิดะออนเซ็นเป็นชื่อรวมของออนเซ็นขนาดใหญ่ 5 แห่ง ซึ่งได้แก่ ฮิรายุออนเซ็น, ฟุคุจิออนเซ็น, ชินฮิรายุออนเซ็น, โทจิโอะออนเซ็น และชินโฮทากะออนเซ็น โดยออนเซ็นแต่ละแห่งจะมีประวัติและลักษณะเด่นแตกต่างกันไป ฮิรายุออนเซ็นมีประวัติที่ยาวนานที่สุดและมีที่ตั้งอยู่ที่กลางป่าดงดิบ ฟุคุจิออนเซ็นมีที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขา ทำให้สัมผัสได้ถึงความลึกลับ โทจิโอะออนเซ็นมีแม่น้ำกามาดะที่เป็นสถานที่ตกปลาอันยอดเยี่ยมและเป็นที่ชื่นชอบสำหรับนักตกปลา ออนเซ็นทั้งห้าแห่งจะมีทิวทัศน์ของเทือกเขาคิตะแอลป์สที่กว้างใหญ่ มีปริมาณน้ำแร่มากมาย และมีบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งในจำนวนมากที่สุดในญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวจะได้ผ่อนคลายไปกับการแช่ตัวในบ่อท่ามกลางธรรมชาติ
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟหรือรถบัสประมาณ 150 นาที ลงที่สถานี JR ทาคายามะ แล้วเดินทางต่อด้วยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง
หมู่บ้านโอคุฮิดะออนเซ็น


ทาเทชินะออนเซ็น

ออนเซ็นที่ยอดขุนศึกแห่งยุคเซ็นโงคุเคยมาแช่ตัว
ที่นี่มีออนเซ็นลับของทาเคดะ ชินเง็น ยอดขุนศึกผู้เลื่องชื่อแห่งยุคเซ็นโงคุ ทาเทชินะออนเซ็นเป็นชื่ออีกชื่อของทาคิโนะยุงาวะออนเซ็นที่อยู่ที่เชิงเขาทาเทชินะ เป็นที่รู้จักกันมาแต่โบราณจากการที่มีปริมาณน้ำแร่มากมายและสรรพคุณในการรักษาโรค
ทาเทชินะออนเซ็นมีบ่อน้ำร้อน 4 แห่ง ได้แก่ บ่อน้ำร้อนมิมูโระ, บ่อน้ำร้อนลับของชินเง็น, บ่อน้ำร้อนทาคิโนะยุออนเซ็น และบ่อน้ำร้อนเซริซาวะออนเซ็น บ่อน้ำร้อนแต่ละแห่งจะมีอุณหภูมิระหว่าง 30-67 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับบ่อน้ำร้อน มีสรรพคุณในการบรรเทาโรคทางเดินอาหาร, บรรเทาโรคข้ออักเสบ และรักษาความชุ่มชื้นของผิว
ที่นี่มีบ่อน้ำร้อนมากมายหลายแห่งที่มีสรรพคุณในการรักษาโรค รวมถึงมีธรรมชาติโดยรอบให้ได้ชม โดยเฉพาะฤดูหนาวที่จะมีภาพหิมะขาวโพลน
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟไปสถานี JR จิโนะประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นเดินทางต่อด้วรถบัสอีก 30 นาที
ทาเทชินะออนเซ็น


คามิสุวะออนเซ็น

ออนเซ็นที่มีปริมาณน้ำแร่มากที่สุดในญี่ปุ่น มีทะเลสาบสุวะและเทือกเขาเจแปนแอลป์สที่กว้างใหญ่ให้ได้ชม
คามิสุวะออนเซ็นเป็นออนเซ็นที่มีปริมาณน้ำแร่มากที่สุดในญี่ปุ่น มีทะเลสาบสุวะและเทือกเขาเจแปนแอลป์สที่กว้างใหญ่ให้ได้ชม
ที่ริมทะเลสาบจะมีบ่อแช่เท้าและน้ำพุร้อน และยังมีสถานที่ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งอย่างบ่อน้ำร้อนพันคนของโรงแรมคาตาคุระคัง (สมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ) ที่เป็นโรงแรมออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น
บ่อน้ำร้อนแช่เท้าที่สวนริมทะเลสาบสามารถใช้บริการได้ฟรี นับแต่ที่เปิดให้บริการในปี 2001 คามิสุวะออนเซ็นได้กลายเป็นที่คุ้นเคยสำหรับชาวเมืองในฐานะสถานที่พบปะพูดคุย ใกล้ ๆ ออนเซ็นจะมีเส้นทางจ๊อกกิ้ง, ศูนย์บริการน้ำพุร้อน และพิพิธภัณฑ์ศิลปะให้นักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลาย
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟหรือรถบัสประมาณ 150 นาที ลงที่สถานี JR คามิสุวะ แล้วเดินต่ออีก 13 นาที
คามิสุวะออนเซ็น


อุสึคุชิงะฮาระและอาซามะออนเซ็น

ออนเซ็นที่มีประวัติความเป็นมากว่า 1,000 ปี
เมืองมัตสึโมโตะมีทั้งปราสาทและหมู่บ้านออนเซ็นมากมาย โดยเฉพาะอาซามะออนเซ็นที่ใกล้กับปราสาทมัตสึโมโตะและมีประวัติความเป็นมากว่า 1,000 ปี ส่วนอุสึคุชิงะฮาระออนเซ็นก็มีธรรมชาติให้ได้ชมและเมืองโบราณให้ได้เดินเล่นกัน ออนเซ็นทั้งสองแห่งนี้อยู่ใกล้กับใจกลางเมืองมัตสึโมโตะ ช่วยให้คุณซื้อของที่มัตสึโมโตะได้อย่างสะดวกก่อนจะไปออนเซ็น ทั้งยังสามารถนั่งรถบัสกลับไปยังโรงแรมเพื่อรับประทานอาหารเย็นได้อีกด้วย คุณจะรู้สึกสดชื่นไปกับการเดินเล่นยามกลางวันในเมืองอันเงียบสงบที่มีอาคารเก่าแก่มากมาย
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมง ลงที่สถานี JR มัตสึโมโตะ เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะไปยังออนเซ็นแต่ละแห่งโดยใช้เวลาประมาณ 15-35 นาที
อุสึคุชิงะฮาระและอาซามะออนเซ็น

GOURMET

ปูคาโน่กานิ X ตลาดโอมิโจ

ปลาสดใหม่ และ ปู ปู ปู !
ตลาดโอมิโจมีฉายาว่า "ครัวของคนคานาซาวะ" มีร้านค้ามากมาย และมีวัตถุดิบอาหารหลากหลายวางจำหน่าย นอกจากจะมีของฝากที่เข้ามาซื้อกันได้แล้ว ยังมีซูชิและไคเซ็นด้ง (ข้าวหน้าทะเล) ที่ทำจากวัตถุดิบจากทะเลที่สดใหม่และอร่อย และเมื่อถึงฤดูหนาว จะมีปูคาโน่กานิที่เป็นอาหารหน้าหนาวที่มีชื่อเสียงในคานาซาวะให้ได้ลิ้มลองกันด้วย ปูคาโน่กานิเป็นปูขนตัวผู้ที่ตั้งชื่อตามชื่อพื้นที่ 2 แห่งในจังหวัดอิชิคาวะที่เป็นต้นกำเนิด ได้แก่ "คางะ" และ "โนโตะ" มีเนื้อที่เหนียว นำไปทำเป็นซุปปู จะได้กลิ่นที่หอมเข้มข้น ถือเป็นเมนูยอดนิยมสำหรับนักชิม มีให้ลิ้มลองในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนมีนาคม
*การเดินทาง: จากประตูทิศตะวันออกของสถานีรถไฟ JR คานาซาวะ นั่งรถบัสแล้วลงที่ป้ายมูซาชิงะสึจิหรือโอมิโจอิจิบะมาเอะ เดินต่ออีก 1 นาที
ปูคาโน่กานิ X ตลาดโอมิโจ


กิจกรรมเที่ยวชมโรงเหล้า (ห้าโรงเหล้าแห่งสุวะ)

โรงเหล้า 5 แห่งยินดีต้อนรับทุกท่านเข้ามาชม คุณชอบรสชาติแบบไหนเอ่ย
กิจกรรมเที่ยวชมโรงเหล้าในสุวะเป็นกิจกรรมแนะนำสำหรับคนที่ชื่นชอบเหล้าสาเกและคนที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมเหล้าสาเก โรงเหล้า 5 แห่งในสุวะประกอบด้วยไมฮิเมะ, เรย์จิน, ฮงคิง, โยโคบุเอะ และมาสุมิ มีที่ตั้งในรัศมี 500 เมตรจากถนนโคชูไคโดในสุวะ
ความลับในการทำสาเกรสเลิศคือ "น้ำ" ที่ใสสะอาด โรงเหล้าทั้ง 5 แห่งในสุวะใช้น้ำใต้ดินจากภูเขาคิริงามิเนะเหมือนกัน แต่ด้วยกรรมวิธีที่แตกต่างกัน ทำให้ได้รสชาติเหล้าสาเกที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงเหล้าแต่ละแห่ง และจากการที่โรงเหล้าทุกแห่งต่างก็เป็นทั้งคู่แข่งและพันธมิตรในเวลาเดียวกันนี่เอง ทำให้มีการสร้างดินแดนเหล้าสาเกเลื่องชื่อระดับประเทศ ถือเป็นกิจกรรมแนะนำสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเหล้าสาเก
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 150 นาที ลงที่สถานี JR คามิสุวะ เดินต่ออีก 8-15 นาที
กิจกรรมเที่ยวชมโรงเหล้า (ห้าโรงเหล้าแห่งสุวะ)

RECOMMENDED AREA
NAGOYA
นาโงย่า | ![]() |
---|---|
นาบานะโนะซาโตะ | ![]() |
สนามบินชูบุเซ็นแทรร์: Flight of Dreams | ![]() |
นาโงย่า

หนึ่งในสามเมืองใหญ่ในญี่ปุ่น มีทั้งแหล่งช้อปปิ้งและอาหารท้องถิ่นมากมาย
นาโงย่าเป็นหนึ่งในสามเมืองใหญ่ในญี่ปุ่นและเป็นเมืองศูนย์กลางของเขตจูเคียว สะดวกแก่การท่องเที่ยวและช้อปปิ้ง
สำหรับคนที่สนใจเรื่องประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ขอแนะนำปราสาทนาโงย่าที่เป็นหนึ่งในสามปราสาทใหญ่ในญี่ปุ่น, ศาลเจ้าอัตสึตะที่เป็นหนึ่งในสามศาลเจ้าใหญ่ในญี่ปุ่น สำหรับคนที่รักการช้อป ขอแนะนำย่านโอสุที่มีอายุ 400 กว่าปีและศูนย์การค้าโอเอซิส 21 สำหรับคนที่รักการกิน ขอแนะนำอาหารท้องถิ่นอย่างข้าวหน้าปลาไหลฮิตสึมาบุชิ, มิโสะคัตสึ, ขนมปังโอะกุระโทสต์ และไก่ทอดเทบาซากิ
*การเดินทาง: จากสนามบินจูบุเซ็นแทรร์ เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 30 นาที หรือเดินทางด้วยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง
นาบานะโนะซาโตะ

ที่นี่จะมีงานอิลลูมิเนชั่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
และยังซุ้มแสงไฟที่มีความยาวกว่า 200 เมตรที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "ทิวทัศน์งามของโลกที่ต้องไปให้สักครั้งในชีวิต"
นาบานะโนะซาโตะเป็นสวนสนุกธีมสวนดอกไม้ที่จะมีงานอิลลูมิเนชั่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยจะจัดในยามกลางคืนตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงถึงฤดูใบไม้ผลิของทุกปี
นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์อยู่ที่ซุ้มแสงไฟ "ฮานะไคโร" ที่มีความยาวกว่า 200 เมตร ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นทิวทัศน์งามของโลก
งานอิลลูมิเนชั่นต่าง ๆ ภายในสวนจะพาผู้เข้าชมทุกคนหลุดเข้าไปในดินแดนแห่งแสงในจินตนาการ เหมาะสำหรับคนที่มาเป็นคู่รักหรือครอบครัว
*ระยะเวลาในการจัดงานอิลลูมิเนชั่น: ปลายเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤษภาคม
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า นั่งรถบัสประมาณ 30 นาที
สนามบินชูบุเซ็นแทรร์: Flight of Dreams

ประตูทางเข้าของภูมิภาคชูบุอันสะดวกสบาย สู่การเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
สนามบินจูบุเซ็นแทรร์เป็นประตูสู่ภูมิภาคชูบุ ช่วยให้คุณสะดวกสบายในการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในจูบุดังที่ได้นำเสนอในเว็บไซต์นี้
นอกจากจะเป็นสถานที่สำคัญในการเดินทางแล้ว สนามบินแห่งนี้ยังมีร้านอาหาร, ร้านค้า และเครื่องเล่นให้บริการอีกด้วย โดยเฉพาะสวนสนุกธีมเครื่องบิน Flight of Dreams ที่ประกอบด้วยพื้นที่ 2 โซน ได้แก่ "ไฟลท์พาร์ค" ที่จำลองมาจากเครื่องบินโบอิ้ง 787 และโซน "ซีแอตเทิลเทอร์เรส" ซึ่งเป็นโซนอาหารและช้อปปิ้งที่จำลองบรรยากาศของซีแอตเทิลที่เป็นเมืองอุตสาหกรรมเครื่องบิน ถือเป็นสถานที่แนะนำสำหรับคนที่รักการท่องเที่ยวและแฟนพันธุ์เครื่องบิน
*การเดินทาง: เดินไปยังอาคารสนามบินหมายเลข 2 ผ่านแอคเซสพลาซ่าของสนามบินชูบุเซ็นแทรร์
TAKAYAMA
ชินโฮทากะโรปเวย์ | ![]() |
---|---|
งานศิลปะแสงไฟแห่งโอคุฮิดะออนเซ็น ภาคฤดูหนาว | ![]() |
งานศิลปะแสงไฟแห่งฮิดะ ทาคายามะ | ![]() |
หมู่บ้านโอคุฮิดะออนเซ็น | ![]() |
ชินโฮทากะโรปเวย์

มีจุดเด่นที่รถเคเบิลคาร์กอนโดล่าสองชั้นเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่น สามารถมองเห็นคิตะแอลป์สที่อยู่เบื้องล่างได้จากระดับความสูง 3,000 เมตร
ชินโฮทากะโรปเวย์อยู่พื้นที่ของชินโฮทากะออนเซ็น แบ่งเส้นทางออกเป็น 2 ส่วน และประกอบด้วย 4 สถานี โดยเฉพาะส่วนที่เดินทางขึ้นไปยังยอดเขาสูง 2,156 เมตร ได้มีการเปิดตัวรถกอนโดล่าสองชั้นที่มีเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นในรูปลักษณ์ใหม่ ณ เดือนกรกฎาคม 2020 ซึ่งสามารถมองเห็นคิตะแอลป์สที่อยู่เบื้องล่างได้จากระดับความสูง 3,000 เมตร ที่จุดชมวิว คุณจะได้ชมทิวทัศน์อันงดงามของภูเขาที่เป็นที่นิยมสำหรับนักปีนเขาอย่างภูเขายาริงะทาเกะและคาสะงะทาเกะ ซึ่งได้รับ 2 ดาวจากคู่มือมิชลินกรีนไกด์จาปอง ในฤดูหนาวคุณจะได้พบกับ "กำแพงหิมะ" สูง 3 เมตรที่สวนเซ็นโงคุเอ็นจิซึ่งอยู่ด้านนอกสถานีนิชิโฮทากะงุจิ มีเสน่ห์สำคัญที่ลักษณะที่คล้ายกับเขาวงกตขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และมีกิจกรรมที่มีเฉพาะในฤดูหนาวอย่างการเดินชมกำแพงหิมะแบบสบาย ๆ
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟหรือรถบัสประมาณ 150 นาที ลงที่สถานี JR ทาคายามะ แล้วเดินทางต่อด้วยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง
งานศิลปะแสงไฟแห่งโอคุฮิดะออนเซ็น ภาคฤดูหนาว

งานศิลปะแสงไฟในฝันที่สร้างขึ้นจากน้ำแข็งและหิมะ
งานศิลปะแสงไฟแห่งโอคุฮิดะออนเซ็น ภาคฤดูหนาว เป็นงานศิลปะแสงไฟอันโรแมนติกที่จะมีการผสมผสานกันระหว่างออนเซ็นที่เข้าร่วมงาน, หิมะ และน้ำแข็ง จัดขึ้นในปลายเดือนธันวาคมจนถึงปลายเดือนมีนาคม ที่ฮิรายุออนเซ็นจะมีเทศกาลน้ำตกน้ำแข็งฮิรายุ ส่วนชินฮิรายุออนเซ็นจะมีเทศกาลทารุมะคาเนโคโอริไลท์อัพ และที่ชินโฮทากะออนเซ็นจะมีเทศกาลนาคาโอะคามาคุระมัตสึริ ใครที่ชื่นชอบออนเซ็นและบรรยากาศโรแมนติกในหน้าหนาว ห้ามพลาดเด็ดขาด !
*ระยะเวลาในการจัดงาน: ปลายเดือนธันวาคม-ปลายเดือนมีนาคม
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟหรือรถบัสประมาณ 150 นาที ลงที่สถานี JR ทาคายามะ แล้วเดินทางต่อด้วยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง
งานศิลปะแสงไฟแห่งฮิดะ ทาคายามะ

ฮิดะ ทาคายามะ เมืองที่ได้ฉายาว่า " Little Kyoto" โดยในฤดูหนาวจะมีงานศิลปะแสงไฟในฝันตามที่ต่าง ๆ ในเมืองให้เดินชมกันอีกด้วย
ฮิดะทาคายามะ หรือที่ถูกเรียกกันอีกชื่อว่า " Little Kyoto " ได้มาจากการที่มีบรรยากาศแบบยุคเอโดะและแลดูคล้ายกับตารางในกระดานหมากล้อม โดยที่นี่เป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การเดินทางไปยังเกโระออนเซ็น, หมู่บ้านชิราคาวะ, ฮิดะฟุรุคาวะ, ชินโฮทากะโรปเวย์ และทาเทยามะคุโรเบะ รวมถึงมีเนื้อวัวฮิดะแสนอร่อยและโกเฮย์โมจิที่เป็นอาหารท้องถิ่น ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ดึงดูดผู้คนมากมาย ในฤดูหนาว ทั่วทั้งเมืองจะมีหิมะปกคลุม พร้อมกับมีงานศิลปะแสงไฟที่จะเปลี่ยนบรรยากาศที่วุ่นวายในยามกลางวันให้เป็นบรรยากาศที่เงียบสงบและมีความโรแมนติกในชั่วพริบตา
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟหรือรถบัสประมาณ 150 นาที ลงที่สถานี JR ทาคายามะ แล้วเดินต่อประมาณ 10 นาที
หมู่บ้านโอคุฮิดะออนเซ็น

หมู่บ้านออนเซ็นกลางแจ้งที่มีคิตะแอลป์สโอบล้อม มีบ่อน้ำร้อนที่มากที่สุดในญี่ปุ่น
หมู่บ้านโอคุฮิดะออนเซ็นเป็นชื่อรวมของออนเซ็นขนาดใหญ่ 5 แห่ง ซึ่งได้แก่ ฮิรายุออนเซ็น, ฟุคุจิออนเซ็น, ชินฮิรายุออนเซ็น, โทจิโอะออนเซ็น และชินโฮทากะออนเซ็น โดยออนเซ็นแต่ละแห่งจะมีประวัติและลักษณะเด่นแตกต่างกันไป ฮิรายุออนเซ็นมีประวัติที่ยาวนานที่สุดและมีที่ตั้งอยู่ที่กลางป่าดงดิบ ฟุคุจิออนเซ็นมีที่ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขา ทำให้สัมผัสได้ถึงความลึกลับ โทจิโอะออนเซ็นมีแม่น้ำกามาดะที่เป็นสถานที่ตกปลาอันยอดเยี่ยมและเป็นที่ชื่นชอบสำหรับนักตกปลา ออนเซ็นทั้งห้าแห่งจะมีทิวทัศน์ของเทือกเขาคิตะแอลป์สที่กว้างใหญ่ มีปริมาณน้ำแร่มากมาย และมีบ่อน้ำร้อนกลางแจ้งในจำนวนมากที่สุดในญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวจะได้ผ่อนคลายไปกับการแช่ตัวในบ่อท่ามกลางธรรมชาติ
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟหรือรถบัสประมาณ 150 นาที ลงที่สถานี JR ทาคายามะ แล้วเดินทางต่อด้วยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง
GUJO
ทาคาสุสโนว์พาร์ค/ไดน่าแลนด์</th> | ![]() |
---|---|
กิจกรรมชมหิมะที่ปราสาทกุโจฮาจิมังและกิจกรรมการทำตัวอย่างอาหาร | ![]() |
บกกะโนะซาโตะ | ![]() |
ลานสกีฮิรุกาโนะโคเก็น | ![]() |
ทาคาสุสโนว์พาร์ค/ไดน่าแลนด์

ลานสกีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก
เหมาะสำหรับผู้ที่มาเป็นครอบครัว สามารถเล่นได้ทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ มีบริการเวลากลางคืนด้วย
ทาคาสุสโนว์พารค์เป็นลานสกีที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก มีสนามสกี 12 แห่งที่สามารถใช้บริการได้ทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ มี 3 แห่งที่มีความยาว 4,000 เมตร ให้ได้เล่นสกีแบบความเร็วสูง รวมถึงมีพื้นที่หรับเด็กให้ผู้ที่มาเป็นครอบครัวสามารถใช้บริการได้สะดวก ส่วนผู้ที่ไม่ถนัดในการเล่นสกี จะมีรถเคเบิลคาร์ 15 ที่นั่งพาขึ้นไปยังจุดชมวิวบนยอดเขา Takasu Terrace เป็นระยะทาง 2,700 เมตร ซึ่งบนสถานที่ดังกล่าวคุณจะได้ชมเมฆหมอกและหิมะอันงดงาม ส่วนที่ไดน่าแลนด์ที่อยู่ใกล้กับลานสกีจะมีสนามสกีถึง 21 แห่ง ให้บริการในเวลากลางคืนจนถึงเวลา 23:00 น. ถือเป็นลานสกีที่มีระยะเวลาให้บริการมากที่สุดในญี่ปุ่น และในฤดูหนาวจะมีงานเทศกาลดอกไม้ไฟอันโรแมนติกให้ได้ชมกันอีกด้วย
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า นั่งรถบัสด่วนประมาณ 100 นาที ลงรถที่สถานีบริการฮิรุกาโนะโคเก็น แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถ shuttle bus/จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ เดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 150 นาที
กิจกรรมชมหิมะที่ปราสาทกุโจฮาจิมังและกิจกรรมการทำตัวอย่างอาหาร

กุโจฮาจิมังมีปราสาทเลื่องชื่อที่มีฉายาว่า "ปราสาทกลางเวหา" และเชื่อหรือไม่ มีของเด่นประจำเมืองคือ "ตัวอย่างอาหาร" ที่เมืองสามารถผลิตได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศญี่ปุ่น
ปราสาทกุโจฮาจิมังเป็นปราสาทไม้ที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของเมืองกุโจ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นบนเนินเล็ก ๆ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง พื้นที่รอบปราสาทมีสภาพอากาศแปรปรวน มีความชื้นสูง และมีลมน้อย ทำให้เกิดหมอกยามเช้ารอบ ๆ ปราสาท จนทำให้ดูเหมือนว่าปราสาทจะลอยอยู่กลางเมฆ จึงมีฉายาว่า "ปราสาทกลางเวหา" ในฤดูหนาว คุณจะได้เห็นทิวทัศน์อันงดงามของหิมะขาวโพลนและปราสาทสีขาวบริสุทธิ์ที่ดูแล้วเข้ากันได้ดี นอกจากปราสาทเลื่องชื่อแล้ว กุโจฮาจิมังยังเป็นเมืองที่ผลิตตัวอย่างอาหารได้มากที่สุดในญี่ปุ่น ใครสนใจสามารถเข้าไปลองทำในโรงงานใกล้ ๆ กับปราสาทกันได้
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถบัสด่วนประมาณ 110 นาทีจากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ เดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 120 นาที
บกกะโนะซาโตะ

สถานที่ที่จะได้พบกับหิมะและสัตว์โดยพร้อมกัน มีพื้นที่สำหรับเล่นหิมะ และมีอัลปาก้าที่เป็นสัตว์ยอดนิยมให้ได้ชมท่ามกลางหิมะ
บกกะโนะซาโตะเป็นสถานที่ที่อยู่ที่ฮิรุกาโนะโคเก็น ณ ระดับความสูง 1,000 เมตร เป็นฟาร์มที่รวมลักษณะเด่นของฟาร์มและสวนเข้าไว้ด้วยกัน ถือเป็นสถานที่ที่สามารถสนุกกันได้ทั้งครอบครัว ในช่วงดอกไม้บาน จะมีดอกทิวลิป, ดอกชิบะซากุระ, ดอกกุหลาบอิงลิชโรส, ดอกลาเวนเดอร์ และดอกคอสมอสเบ่งบานมากมาย ทั้งยังสามารถเดินเล่นไปกับสัตว์ที่น่ารักอย่างม้า, วัว, แพะ, กระต่าย รวมถึงสัตว์ยอดนิยมอย่างอัลปาก้า
ในช่วงฤดูหนาว นอกจากออนเซ็นแล้ว ยังมีบริการนั่งเลื่อนเทียมลูกม้าในช่วงหิมะตกหนักอีกด้วย ส่วนภายในสวนจะมีร้านไอศกรีมและผลิตภัณฑ์จากนม และพิพิธภัณฑ์ของเล่นไม้ที่เข้าชมฟรี ถือเป็นสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินกันได้ทั้งครอบครัว
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า นั่งรถบัสด่วนประมาณ 100 นาที ลงที่สถานีบริการฮิรุกาโนะโคเก็น แล้วเดินทางต่อด้วยรถบัสรับ-ส่ง (ต้องจองล่วงหน้า)
ลานสกีฮิรุกาโนะโคเก็น

ลานสกีแห่งนี้มีสวนเด็ก เหมาะที่จะพาเด็กมาสัมผัสกับหิมะครั้งแรก
ลานสกีฮิรุกาโนะโคเก็นเป็นลานสกีที่เหมาะสำหรับผู้ที่มาเป็นครอบครัวและผู้เริ่มต้นเล่นสกี
ลานสกีแห่งนี้มีสนามสกี 7 แห่ง ซึ่งสามารถใช้บริการได้ทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ที่อยู่ในระดับกลาง มีโรงเรียนฝึกสกีและสโนบอร์ดที่เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปสามารถเข้าเรียนได้ ส่วนสนามสกีก็มีความกว้างและไม่ชันมาก เหมาะสำหรับการเล่นสกีทั้งครอบครัว
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์สกีให้เช่าอย่างหมวก, แว่นตา, ถุงมือ และเสื้อผ้าด้วย คุณจึงไม่จำเป็นต้องซื้อหรือหาอุปกรณ์มาเอง สำหรับผู้ที่ไม่ถนัดในการเล่นสกี ก็สามารถสนุกไปกับการเล่นสไลเดอร์และการเล่นหิมะได้เช่นกัน เป็นสถานที่ที่เหมาะจะพาเด็กมาสัมผัสกับหิมะครั้งแรก
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า นั่งรถบัสด่วนประมาณ 100 นาที ลงรถที่สถานีบริการฮิรุกาโนะโคเก็น จากนั้นลงรถและเปลี่ยนไปขึ้นรถ shuttle bus/จากสนามบินชูบุเซ็นแทรร์ เดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 150 นาที
KANAZAWA
สวนเค็นโรคุเอ็น | ![]() |
---|---|
ยูวาคุออนเซ็นและหมู่บ้านเอโดะยูวาคุ คานาซาวะ | ![]() |
ตลาดโอมิโจ | ![]() |
หมู่บ้านร้านน้ำชาฮิงาชิ | ![]() |
สวนเค็นโรคุเอ็น

สวนไคยูชิกิที่เป็นหนึ่งใน "สามสวนญี่ปุ่นชื่อดังในญี่ปุ่น"
สวนเค็นโรคุเอ็นเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในเมืองคานาซาวะ สร้างขึ้นในยุคเอโดะ และได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "สามสวนญี่ปุ่นชื่อดังในญี่ปุ่น" โดยสวนที่ได้รับเลือกแต่ละแห่งจะได้มีชื่อเสียงต่างกันไปจากภาพบรรยากาศสวยงามของแต่ละสวนทั้งสวนที่ชม"ดวงจันทร์"ได้สวยที่สุด, สวนที่ชม"หิมะ" ได้สวยงาม และ สวนที่ชม"ดอกไม้"ได้สวยที่สุด รวมกันแล้วเป็นสามสวนนั้นเอง โดยสวนเค็นโรคุเอ็นได้รับตำแหน่งสวนแห่ง“หิมะ” นั้นเอง นอกจากนี้ต้นไม้หลายต้นภายในสวนจะมี "ยูคิสึริ" ที่เป็นเทคนิคการบำรุงรักษาต้นไม้แบบดั้งเดิม ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้ต้นไม้โค่นล้มเมื่อเจอหิมะทับถมในฤดูหนาว วิธีทำคือ ตรึงให้กิ่งไม้อยู่กับที่ด้วยเชือกและเสา โดยโยงเชือกแต่ละเส้นจากด้านบนให้แผ่ออกเป็นรัศมีให้คล้ายกับเสื้อคลุมที่แผ่ออก เป็นไฮไลท์สำคัญที่จะได้เห็นฝีมือของนักจัดสวนญี่ปุ่น การทำยูคิสึริจะทำในเดือนพฤศจิกายนก่อนที่จะมีหิมะตก และจะนำเชือกและเสาออกในเดือนมีนาคมซึ่งเป็นช่วงที่หมดหน้าหิมะ นับเป็นสัญลักษณ์ของเมืองคานาซาวะในฤดูหนาวกันเลยทีเดียว
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ JR คานาซาวะ เดินทางด้วยรถบัสประมาณ 10 นาที แล้วลงที่ป้าย "เค็นโรคุเอ็นชิตะ-คานาซาวะโจ"/จากสถานีรถไฟ JR คานาซาวะ เดินทางประมาณ 10 นาที
ยูวาคุออนเซ็นและหมู่บ้านเอโดะยูวาคุ คานาซาวะ

ยูวาคุออนเซ็น บ่อน้ำร้อนลับใกล้กับคานาซาวะ มีประวัติความเป็นมา 1,300 ปี
ทุกท่านทราบหรือไม่ว่ามีสถานที่ไหนที่อยู่ใกล้กับคานาซาวะด้วยนะ ยูคาวะออนเซ็นที่อยู่ในหุบเขาไงล่ะ สถานที่แห่งนี้ใช้เวลาในการเดินทางด้วยรถยนต์จากตัวเมืองคานาซาวะประมาณ 30 นาที มีที่ตั้งอยู่ภายในหุบเขาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของคานาซาวะ และมีประวัติความเป็นมาถึง 1,300 ปี
วาคุออนเซ็นมีน้ำแร่ที่ใสสะอาดและมีความเป็นด่าง ช่วยในการบรรเทาอาการปวดเส้นประสาท, ข้อต่อ และกล้ามเนื้อ มีบรรยากาศที่เงียบสงบและสามารถชมทิวทัศน์ทั้งสี่ฤดูได้อย่างชัดถนัดตา
ในฤดูหนาวจะมีหิมะตก ซึ่งจะช่วยแต่งเดิมบรรยากาศเรียบ ๆ ให้ดูมีสีสันและมีความอลังการมากขึ้น นอกจากนี้โรงแรมเรียวคังแต่ละแห่งจะมีเมนูอาหารสไตล์คางะที่มีวัตถุดิบมากมายมาให้บริการด้วย
หมู่บ้านเอโดะยูวาคุที่อยู่ในพื้นที่ออนเซ็นจะมีอาคารแบบดั้งเดิมที่สร้างในยุคเอโดะเมื่อประมาณ 200 ปีก่อนให้ได้ชม ซึ่งจะทำให้คุณได้สัมผัสถึงประวัติศาสตร์ของคานาซาวะให้ลึกซึ้งกว่าเดิม ที่พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งจะมีการจัดแสดงและอนุรักษ์อาคารบ้านเรือน 8 หลัง โดยเฉพาะบ้านของซามูไร เมื่อคุณเข้าไปในอาคาร คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตและทิวทัศน์ในยุคเอโดะ รวมถึงบรรยากาศย้อนยุคด้วย มีอาคาร 2 หลังซึ่งได้แก่ บ้านตระกูลมัตสึชิตะและบ้านตระกูลอิชิคุระ โรงเตี๊ยมซาบานามิ ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติ
ในฤดูหนาว คุณจะได้ชมบ้านหลังคามุงหญ้าที่มีหิมะปกคลุม ซึ่งงดงามดั่งโลกในนิทาน
*การเดินทาง: จากประตูทิศตะวันออกของสถานีรถไฟ JR คานาซาวะ นั่งรถบัสแล้วลงที่ป้ายยูวาคุออนเซ็น/เดินทางด้วยรถยนต์จากเค็นโรคุเอ็นประมาณ 20 นาที
ตลาดโอมิโจ

วัตถุดิบอาหารทั้งหมดในคานาซาวะอยู่ที่ตลาดนี้ มีปูคาโน่ในหน้าหนาวเป็นของเด็ด
ตลาดโอมิโจมีฉายาว่า "ครัวของคนคานาซาวะ" มีร้านค้ามากมาย และมีวัตถุดิบอาหารหลากหลายวางจำหน่าย นอกจากจะมีของฝากที่เข้ามาซื้อกันได้แล้ว ยังมีซูชิและไคเซ็นด้ง (ข้าวหน้าทะเล) ที่ทำจากวัตถุดิบจากทะเลที่สดใหม่และอร่อย และเมื่อถึงฤดูหนาว จะมีปูคาโน่กานิที่เป็นอาหารหน้าหนาวที่มีชื่อเสียงในคานาซาวะให้ได้ลิ้มลองกันด้วย ปูคาโน่กานิเป็นปูขนตัวผู้ที่ตั้งชื่อตามชื่อพื้นที่ 2 แห่งในจังหวัดอิชิคาวะที่เป็นต้นกำเนิด ได้แก่ "คางะ" และ "โนโตะ" มีเนื้อที่เหนียว นำไปทำเป็นซุปปู จะได้กลิ่นที่หอมเข้มข้น ถือเป็นเมนูยอดนิยมสำหรับนักชิม มีให้ลิ้มลองในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนมีนาคม
*การเดินทาง: จากประตูทิศตะวันออกของสถานีรถไฟ JR คานาซาวะ นั่งรถบัสแล้วลงที่ป้ายมูซาชิงะสึจิหรือโอมิโจอิจิบะมาเอะ เดินต่ออีก 1 นาที
หมู่บ้านร้านน้ำชาฮิงาชิ

ที่นี่มีอาคารบ้านเรือนย้อนยุคและทองคำเปลว (กิจกรรมแปะทองคำเปลวและไอศกรีมซอฟต์ครีมทองคำเปลว)
เมืองโบราณที่เปี่ยมด้วยบรรยากาศแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นเขตอนุรักษ์อาคารโบราณสำคัญของชาติ
สถานที่แห่งนี้เหมาะแก่การถ่ายรูปที่มีบรรยากาศแบบญี่ปุ่น คานาซาวะเป็นผู้ผลิตทองคำเปลวในปริมาณ 98% ของทั้งประเทศญี่ปุ่น ภายในหมู่บ้านร้านน้ำชาฮิงาชิจึงมีทองคำเปลวให้ทุกท่านได้สัมผัสในหลายสถานที่ มีกิจกรรมแปะทองคำเปลวบนเครื่องใช้เล็ก ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง รวมไปถึงไอศกรีมซอฟต์ครีมทองคำเปลวที่เหมาะสำหรับถ่ายรูปขึ้นโซเชียล ถือเป็นเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับคนญี่ปุ่นที่จะได้สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นด้วยสายตาและลิ้น
*การเดินทาง: จากประตูทิศตะวันออกของสถานีรถไฟ JR คานาซาวะ เดินทางด้วยรถบัส 15 นาที
MATSUMOTO
ที่ราบสูงโนริคุระโคเก็น | ![]() |
---|---|
ปราสาทมัตสึโมโตะ (เทศกาลน้ำแข็งแกะสลัก) | ![]() |
อุสึคุชิงะฮาระและอาซามะออนเซ็น | ![]() |
อาหารท้องถิ่นในมัตสึโมโตะ | ![]() |
ที่ราบสูงโนริคุระโคเก็น (กิจกรรมสวมรองเท้าหิมะและกิจกรรมชมน้ำตกน้ำแข็ง)

กิจกรรมสวมรองเท้าหิมะและชมน้ำตกน้ำแข็งที่มีเฉพาะในฤดูหนาว
ที่ราบสูงโนริคุระโคเก็นที่อยู่ทางตอนใต้ของเทือกเขาคิตะแอลป์สมีชื่อเสียงจากการเป็นสถานที่พักร้อนของคนญี่ปุ่น แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ที่ราบสูงแห่งนี้จะกลายเป็นสวนหิมะที่เหมาะแก่การทำกิจกรรมกลางแจ้งเกี่ยวกับหิมะนานาชนิด โดยเฉพาะสกี, การสวมรองเท้าหิมะ และการชมน้ำตกน้ำแข็งที่มีเฉพาะฤดูหนาว "น้ำตกน้ำแข็ง" เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติอย่างหนึ่ง เกิดจากน้ำตกที่เย็นตัวจัดจนกลายเป็นน้ำแข็ง ที่ราบสูงโนริคุระโคเก็นมีน้ำตกที่มีชื่อเสียง 3 แห่ง ได้แก่ น้ำตกซัมบงที่มีความสูง 50 เมตร, น้ำตกเซ็นโกโร่ที่มีความสูง 21.5 เมตร และน้ำตกบันโดโคโระที่มีความสูง 40 เมตร ซึ่งมีภาพทิวทัศน์ของน้ำตกน้ำแข็งและหิมะขาวโพลนสุดลูกหูลูกตาให้คุณได้รู้สึกประทับใจ
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมง ลงที่สถานี JR มัตสึโมโตะ แล้วเดินทางด้วยรถบัสอีกประมาณ 1 ชั่วโมง
ปราสาทมัตสึโมโตะ (เทศกาลน้ำแข็งแกะสลัก)

ปราสาทอันเป็นสมบัติของชาติที่ปกคลุมด้วยหิมะและดินแดนในฝันที่มีน้ำแข็งแกะสลักที่ใต้ปราสาท
ปราสาทมัตสึโมโตะเป็นสมบัติของชาติในญี่ปุ่น มีภาพที่งดงามจากสีที่ตัดกันระหว่างสีดำจากหลังคาปราสาทกับสีขาวจากหิมะที่คิตะแอลป์ส และมีไฮไลท์อยู่ที่ดีไซน์และหอคอยปราสาท ในฤดูหนาวของทุกปีจะมีงานกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดอย่างเทศกาลน้ำแข็งแกะสลักที่ปราสาทมัตสึโมโตะ ในเทศกาลจะมีผลงานน้ำแข็งแกะสลักอันวิจิตรฝีมือทีมแกะสลักที่มีสมาชิกหลายสิบคนจากทั่วประเทศโดยเฉพาะจังหวัดนางาโนะจัดแสดงที่กลางแจ้ง พร้อมด้วยการจัดแสงไฟในยามราตรี ซึ่งจะสร้างบรรยากาศให้ดูราวกับเป็นดินแดนในฝัน
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมง ลงที่สถานี JR มัตสึโมโตะ แล้วเดินต่อ 15 นาที/ลงที่สถานี JR มัตสึโมโตะ นั่งรถบัสวน ลงที่ป้าย "มัตสึโมโตะโจ-ชิโจฉะมาเอะ"
อุสึคุชิงะฮาระและอาซามะออนเซ็น

ออนเซ็นที่มีประวัติความเป็นมากว่า 1,000 ปี
เมืองมัตสึโมโตะมีทั้งปราสาทและหมู่บ้านออนเซ็นมากมาย โดยเฉพาะอาซามะออนเซ็นที่ใกล้กับปราสาทมัตสึโมโตะและมีประวัติความเป็นมากว่า 1,000 ปี ส่วนอุสึคุชิงะฮาระออนเซ็นก็มีธรรมชาติให้ได้ชมและเมืองโบราณให้ได้เดินเล่นกัน ออนเซ็นทั้งสองแห่งนี้อยู่ใกล้กับใจกลางเมืองมัตสึโมโตะ ช่วยให้คุณซื้อของที่มัตสึโมโตะได้อย่างสะดวกก่อนจะไปออนเซ็น ทั้งยังสามารถนั่งรถบัสกลับไปยังโรงแรมเพื่อรับประทานอาหารเย็นได้อีกด้วย คุณจะรู้สึกสดชื่นไปกับการเดินเล่นยามกลางวันในเมืองอันเงียบสงบที่มีอาคารเก่าแก่มากมาย
* การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมง ลงที่สถานี JR มัตสึโมโตะ เดินทางด้วยขนส่งสาธารณะไปยังออนเซ็นแต่ละแห่งโดยใช้เวลาประมาณ 15-35 นาที
อาหารท้องถิ่นในมัตสึโมโตะ

มีอาหารท้องถิ่นอย่างไก่ทอดซันโซคุยากิและโทจิโซบะ และมีบาร์กับคาเฟ่กลางคืนในเมืองอันเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศที่จะทำให้คุณได้สนุกไปกับชีวิตยามค่ำคืน
ทุกท่านรู้จัก "ไก่ทอดซันโซคุยากิ" กันไหม ไก่ทอดซันโซคุยากิเป็นอาหารประจำถิ่นที่มีต้นกำเนิดที่มัตสึโมโตะ ทำจากเนื้อไก่หมักซอสกระเทียม คลุกกับแป้งมันฝรั่ง แล้วนำไปทอด ทำให้ได้ไก่ทอดที่มีรสชาติกรุบกรอบและอร่อยแตกต่างจากไก่ทอดทั่วไป นอกจากนี้ เมื่อพูดถึงจังหวัดนางาโนะแล้ว หลายคนจะนึกถึงโซบะ แต่ที่มัตสึโมโตะจะมีเมนูอาหารท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ นามว่า "โทจิโซบะ" วิธีรับประทานคือ นำเส้นโซบะเย็นรับประทานกับเห็ด, เต้าหู้อาบุระอาเกะ, ต้นหอม และผักภูเขาที่มีมากมายในหม้อไฟ
เมื่อถึงเวลากลางคืน เมืองมัตสึโมโตะจะกลายเป็นเมืองแห่งความทันสมัยที่ทรงเสน่ห์ บริเวณสถานีรถไฟจะมีบาร์และร้านเหล้ามากมายที่จะให้บริการไปจนถึงเวลาดีกดื่น นอกจากกาแฟแล้ว ยังมีคราฟต์เบียร์, เมนูท้องถิ่น และของหวานที่จะทำให้คุณรู้สึกชื่นใจและรู้สึกผิดไปพร้อมกัน ให้ได้กินตลอดทั้งวัน ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะจะพักค้างคืนสักคืนหนึ่ง
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมง
SUWA
SUWA กลาสโนะซาโตะ | ![]() |
---|---|
ตกปลาและทำเท็มปุระปลาวาคาซากิที่ทะเลสาบสุวะ | ![]() |
คามิสุวะออนเซ็น | ![]() |
กิจกรรมเที่ยวชมโรงเหล้า (ห้าโรงเหล้าแห่งสุวะ) |
![]() |
SUWA กลาสโนะซาโตะ

พิพิธภัณฑ์งานแก้วที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีทำเลดีที่สามารถมองเห็นทะเลสาบสุวะและภูเขายัตสึงะทาเกะ
ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์งานแก้วที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เปิดให้เข้าชมเมื่อปี 2016 กลาสโนะซาโตะแห่งนี้ประกอบด้วยพิพิธภัณฑ์งานแก้ว, มิวเซียมช็อป, ร้านซีเล็คท์ช็อปที่มีของเด่นในสุวะ และเวิร์กช็อปที่สามารถทำงานแก้วได้เองกว่า 10 ห้อง แนะนำให้เริ่มจากการชมพิพิธภัณฑ์ที่มีงานแก้วท้องถิ่นที่งดงามทุกยุคทุกสมัย จากนั้นไปที่ร้านเพื่อชมสินค้าจากแก้วกว่า 10,000 ชิ้น แล้วจึงไปที่เวิร์คช็อปเพื่อทำงานแก้วแบบออริจินัล ใครที่ต้องการชมงามแก้วแบบครบรสที่กลาสโนะซาโตะ แนะนำให้ชมพิพิธภัณฑ์, ซื้อของที่ร้านค้า และทำงานแก้วเองที่เวิร์กช็อปตามลำดับ
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 150 นาที ลงรถที่สถานีรถไฟ JR คามิสุวะ เดินทางต่อด้วยรถบัสประมาณ 20 นาที
ตกปลาวาคาซากิที่ทะเลสาบสุวะ

ไฮไลท์คือการตกปลาน้ำแข็งที่เป็นกิจกรรมเด่นในฤดูหนาวและการทำเท็มปุระปลา
ทุกคนสามารถตกปลาที่ทะเลสาบสุวะภายในเรือที่มีอากาศอบอุ่นได้ เป็นการพลิกความเชื่อที่ว่า "การตกปลาบนแผ่นน้ำแข็งจะรู้สึกหนาว" มีคันเบ็ดและเหยื่อให้เช่าภายในเรือ สามารถตกปลากันได้ทุกเพศทุกวัยโดยไม่จำเป็นต้องซื้อหาอุปกรณ์มาเอง ปลาวาคาซากิมีความยาว 15 เซนติเมตร มีหน้าตาคล้ายกับปลาไข่ ในฤดูหนาว ผู้คนนิยมตกปลาชนิดนี้ไปทำเป็นเท็มปุระกรอบ ๆ ร้อน ๆ ซึ่งรสชาติของเท็มปุระปลาวาคาซากิที่ตกได้เองถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ายิ่ง กิจกรรมตกปลากวาคาซากิที่ทะเลสาบสุวะนี้จะจัดในเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคมของทุกปี และจากการที่คามิสุวะเป็นสถานที่ที่จับปลาได้มากที่สุด ทำให้กิจกรรมการตกปลานี้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในญี่ปุ่น
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 150 นาที ลงรถที่สถานีรถไฟ JR คามิสุวะ เดินทางต่อด้วยรถบัสประมาณ 15 นาที
คามิสุวะออนเซ็น

ออนเซ็นที่มีปริมาณน้ำแร่มากที่สุดในญี่ปุ่น มีทะเลสาบสุวะและเทือกเขาเจแปนแอลป์สที่กว้างใหญ่ให้ได้ชม
คามิสุวะออนเซ็นเป็นออนเซ็นที่มีปริมาณน้ำแร่มากที่สุดในญี่ปุ่น มีทะเลสาบสุวะและเทือกเขาเจแปนแอลป์ที่กว้างใหญ่ให้ได้ชม
ที่ริมทะเลสาบจะมีบ่อแช่เท้าและน้ำพุร้อน และยังมีสถานที่ที่มีชื่อเสียงอีกแห่งอย่างบ่อน้ำร้อนพันคนของโรงแรมคาตาคุระคัง (สมบัติทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ) ที่เป็นโรงแรมออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น
บ่อน้ำร้อนแช่เท้าที่สวนริมทะเลสาบสามารถใช้บริการได้ฟรี นับแต่ที่เปิดให้บริการในปี 2001 คามิสุวะออนเซ็นได้กลายเป็นที่คุ้นเคยสำหรับชาวเมืองในฐานะสถานที่พบปะพูดคุย ใกล้ ๆ ออนเซ็นจะมีเส้นทางจ๊อกกิ้ง, ศูนย์บริการน้ำพุร้อน และพิพิธภัณฑ์ศิลปะให้นักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลาย
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟหรือรถบัสประมาณ 150 นาที, จากสถานีรถไฟ JR คามิสุวะ เดินต่ออีก 13 นาที
กิจกรรมเที่ยวชมโรงเหล้า (ห้าโรงเหล้าแห่งสุวะ)

โรงเหล้า 5 แห่งยินดีต้อนรับทุกท่านเข้ามาชม คุณชอบรสชาติแบบไหนเอ่ย
กิจกรรมเที่ยวชมโรงเหล้าในสุวะเป็นกิจกรรมแนะนำสำหรับคนที่ชื่นชอบเหล้าสาเกและคนที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมเหล้าสาเก โรงเหล้า 5 แห่งในสุวะประกอบด้วยไมฮิเมะ, เรย์จิน, ฮงคิง, โยโคบุเอะ และมาสุมิ มีที่ตั้งในรัศมี 500 เมตรจากถนนโคชูไคโดในสุวะ
ความลับในการทำสาเกรสเลิศคือ "น้ำ" ที่ใสสะอาด โรงเหล้าทั้ง 5 แห่งในสุวะใช้น้ำใต้ดินจากภูเขาคิริงามิเนะเหมือนกัน แต่ด้วยกรรมวิธีที่แตกต่างกัน ทำให้ได้รสชาติเหล้าสาเกที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงเหล้าแต่ละแห่ง และจากการที่โรงเหล้าทุกแห่งต่างก็เป็นทั้งคู่แข่งและพันธมิตรในเวลาเดียวกันนี่เอง ทำให้มีการสร้างดินแดนเหล้าสาเกเลื่องชื่อระดับประเทศ ถือเป็นกิจกรรมแนะนำสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเหล้าสาเก
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 150 นาที ลงที่สถานี JR คามิสุวะ เดินต่ออีก 8-15 นาที
KOMAGANE
แอ่งเซ็นโจจิกิ จูโอแอลป์ | ![]() |
---|---|
จูโอแอลป์สโคมางาทาเกะโรปเวย์ (กิจกรรมเดินด้วยรองเท้าหิมะ) |
![]() |
หมู่บ้านฮายาทาโร่ออนเซ็น | ![]() |
โคมางาเนะซอสคัตสึด้ง | ![]() |
แอ่งเซ็นโจจิกิ จูโอแอลป์

แหล่งท่องเที่ยวสุดพิเศษ ณ ความสูง 2,612 เมตร เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งเมื่อประมาณ 2 หมื่นปีก่อน
สำหรับคนที่อยากชมธรรมชาติขนาดใหญ่ ขอแนะนำ "แอ่งเซ็นโจจิกิ" แอ่งแห่งนี้อยู่ที่ระดับความสูง 2,612 เมตรใต้ยอดเขาโฮเค็นดาเกะของเทือกเขาจูโอแอลป์ส มีลักษณะคล้ายชามข้าว เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งเมื่อประมาณ 2 หมื่นปีก่อน มีทิวทัศน์ตระการตาที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล โดยเฉพาะหน้าหนาวที่จะมีภาพของหิมะอันขาวโพลน
นอกจากนี้จะมีผู้คนมากมายที่สวมรองเท้าหิมะขึ้นมาชมทิวทัศน์และเล่นหิมะกันมากมาย
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถบัสด่วนไปทางแยกต่างระดับโคมางาเนะประมาณ 150 นาที เปลี่ยนไปขึ้นรถเมล์ แล้วเดินทางต่อประมาณ 30 นาที แล้วเปลี่ยนไปใช้บริการของโรปเวย์
จูโอแอลป์สโคมางาทาเกะโรปเวย์ (กิจกรรมเดินด้วยรองเท้าหิมะ)

สนุกไปกับการสวมรองเท้าหิมะชมทิวทัศน์ฤดูหนาวบนโรปเวย์ที่ชันที่สุดในญี่ปุ่น
จูโอแอลป์สโคมางาทาเกะโรปเวย์มีเส้นทางจากชิราบิไดระที่ระดับความสูง 1,662 เมตรไปยังเซ็นโจจิกิที่ระดับความสูง 2,612 เมตร เท่ากับว่ามีระดับความสูงต่างกัน 950 เมตร ซึ่งถือว่าชันที่สุดในญี่ปุ่น
จากโรปเวย์คุณสามารถมองเห็นเทือกเขามินามิแอลป์สที่ปกคลุมด้วยหิมะ, น้ำตกน้ำแข็ง และแท่งน้ำแข็ง รวมถึงคุณจะได้สวมรองเท้าหิมะชมแอ่งเซ็นโจจิกิบนยอดเขาที่มีหิมะที่กำลังละลายและป่าบริเวณสถานีชิราบิไดระที่เชิงเขาอีกด้วย
ขอเชิญทุกคนมาชมทิวทัศน์ฤดูหนาวที่มีความชันมากที่สุดในญี่ปุ่นและอยู่ที่ระดับความสูง 2,612 เมตรไปกับจูโอแอลป์สโคมางาทาเกะโรปเวย์
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถบัสด่วนไปทางแยกต่างระดับโคมางาเนะประมาณ 150 นาที เปลี่ยนไปขึ้นรถเมล์ แล้วเดินทางต่อประมาณ 30 นาที แล้วเปลี่ยนไปใช้บริการของโรปเวย์
หมู่บ้านฮายาทาโร่ออนเซ็น

มีชื่อเสียงมากที่สุดในบรรดาออนเซ็นในจูโอแอลป์สจากการเป็น "น้ำแร่บำรุงผิว"
หมู่บ้านฮายาทาโร่ออนเซ็นอยู่ที่เชิงเทือกเขาจูโอแอลป์ส มีโรงแรมเรียวคังและออนเซ็นแบบเช้าไปเย็นกลับรวมกัน 10 กว่าแห่ง น้ำแร่ของออนเซ็นแห่งนี้เป็นด่างอ่อน ๆ มีความตึงตัวต่ำ ไม่ระคายต่อผิว ใสสะอาด และไม่มีกลิ่น ช่วยให้ผิวนุ่มลื่น จึงได้ชื่อว่าเป็น "น้ำแร่บำรุงผิว" และเป็นที่ชื่นชอบในบรรดาหญิงสาวมากมาย หมู่บ้านออนเซ็นแห่งนี้อยู่บนพื้นที่สูงและมีอากาศที่สดชื่น ทั้งยังมีลำธารใสสะอาด จึงเป็นสถานที่สำหรับพักหูและสายตา อนึ่ง ชื่อ "ฮายาทาโร่" เป็นชื่อของวิญญาณสุนัขที่คอยช่วยขับไล่ปีศาจเจ้าถิ่น สถิตอยู่ที่วัดโคเซ็นจิที่อยู่ใกล้กับหมู่บ้าน
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถบัสด่วนไปทางแยกต่างระดับโคมางาเนะประมาณ 150 นาที เปลี่ยนไปใช้รถเมล์แล้วเดินทางต่ออีก 5 นาที
โคมางาเนะซอสคัตสึด้ง

อาหารท้องถิ่นที่หากินได้ที่ร้านอาหาร 30 กว่าแห่งในตัวเมือง
โซบะเป็นเมนูดังประจำจังหวัดนางาโนะ แต่มีอีกเมนูหนึ่งที่ห้ามพลาด คือ โคมางาเนะซอสคัตสึด้ง เมนูนี้เป็นข้าวสวยที่มีกะหล่ำปลีซอยและหมูทอดทงคัตสึราดซอสวางอยู่ด้านบน เป็นเมนูท้องถิ่นที่คงความนิยมตั้งแต่ยุคโชวะมาจนถึงปัจจุบัน ในปี 1993 มีการก่อตั้งสมาคมข้าวหน้าทงคัตสึราดซอสแห่งโคมางาเนะ และได้กำหนดมาตรฐานในการทำข้าวหน้าทงคัตสึราดซอสเพื่อการเผยแพร่สูตรอาหารอย่างเป็นระบบ
เช่น ทงคัตสึจะต้องทำจากเนื้อหมูสันนอก, ข้าวหน้าทงคัตสึจะต้องมีน้ำหนักอย่างน้อย 120 กรัม, ซอสที่ใช้จะต้องเป็นซอสสูตรของสมาคม, ผักที่ใช้สำหรับการทำข้าวหน้าทงคัตสึจะต้องเป็นกะหล่ำปลีเท่านั้น เป็นต้น
นอกจากนี้ร้านค้าแต่ละแห่งจะมีการเติมส่วนผสมด้วยสูตรของตัวเอง ทำให้ได้ข้าวหน้าทงคัตสึที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ถือเป็นเมนูแนะนำสำหรับคนที่ชอบเนื้อ
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถบัสด่วนไปสถานีรถบัสโคมางาเนะประมาณ 150 นาที
CHINO
ต้นไม้น้ำแข็งแห่งคิตะงะทาเกะ | ![]() |
---|---|
จุดชมวิวบนยอดเขา Sky Terrace | ![]() |
คิตะยัตสึงะทาเกะโรปเวย์ | ![]() |
ทาเทชินะออนเซ็น | ![]() |
ต้นไม้น้ำแข็งแห่งคิตะงะทาเกะ

ที่เดียวในญี่ปุ่นที่จะได้พบกับต้นไม้น้ำแข็ง
ปรากฎการณ์ "ต้นไม้น้ำแข็ง" เกิดจากไอน้ำในหมอกจับตัวเป็นน้ำแข็งตามต้นไม้ ซึ่งต้นไม้น้ำแข็งเหล่านี้สามารถหาชมได้ที่เมืองจิโนะในจังหวัดนางาโนะ พีลาตัสทาเทชินะสโนว์รีสอร์ทเป็นลานสกีในเมืองจิโนะ จังหวัดนางาโนะ มีสนามสกียาว 4 กิโลเมตร สามารถเล่นได้ทั้งสกีระยะไกลและสโนว์บอร์ด
มีเส้นทางเดินต้นไม้น้ำแข็งยาวประมาณ 900 เมตรที่จะมีต้นไม้น้ำแข็งอันน่าตื่นตาตื่นใจและทิวทัศน์ของภูเขาที่กว้างใหญ่ให้ได้ชมใกล้ ๆ ด้วย
สำหรับคนที่ไม่เก่งเรื่องการเล่นสกี สามารถใช้บริการรถเคเบิลคาร์เพื่อชมวิวธรรมชาติหน้าหนาวของภูเขาคิตะงะทาเกะได้จากระดับความสูง 2,237 เมตร
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 3 ชั่วโมง ลงรถที่สถานี JR จิโนะ แล้วเดินทางด้วยรถบัสต่ออีก 60 นาที
จุดชมวิวบนยอดเขา Sky Terrace

สถานที่ใหม่ เปิดให้บริการ ณ เดือนธันวาคม 2020 มีระเบียงสร้างใหม่สำหรับชมทิวทัศน์พานอราม่าในหน้าหนาว
Sky Terrace เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาคุรุมะยามะ เปิดให้บริการ ณ เดือนธันวาคม 2020
ที่ยอดเขาคุรุมะยามะที่มีความสูง 1,925 เมตร คุณสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ, คิตะแอลป์ส, จูโอแอลป์ส, มินามิแอลป์ส และยัตสึงะทาเกะได้
เพื่อให้ผู้คนสามารถเพลิดเพลินกับการชมวิวได้อย่างเต็มที่ จุดชมวิวแห่งนี้จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างทางเดินขึ้นจุดชมวิวที่ผู้ที่นั่งเก้าอี้รถเข็นสามารถสัญจรได้สะดวก
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ JR นาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 3 ชั่วโมงจนถึงสถานี JR จิโนะ แล้วเดินทางต่อด้วยรถบัสประมาณ 60 นาที
คิตะยัตสึงะทาเกะโรปเวย์

จุดเด่นอยู่ที่ทิวทัศน์บนยอดเขา ใช้เวลาในการเดินกลางอากาศฤดูหนาว 7 นาที
หากคุณต้องการชมธรรมชาติที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ขอแนะนำให้มาสัมผัสประสบการณ์ได้ที่คิตะยัตสึงะทาเกะโรปเวย์ ซึ่งมีเส้นทางจากคิตะโยโคดาเกะของคิตะยัตสึงะทาเกะไปยังภูเขาชิมะคาเระที่ระดับความสูง 2,237 เมตร ใช้เวลาในการเดินทางเพียง 7 นาที ระหว่างการเดินทางคุณจะได้เห็นภาพของภูเขาอันใหญ่โตที่อยู่เบื้องล่างเคลื่อนผ่านไป
คิตะยัตสึงะทาเกะโรปเวย์จะเปิดให้บริการตลอดปี ใช้เวลาในการเดินทางมายังสถานที่แห่งนี้ได้โดยสะดวกโดยใช้เวลาแค่ 10-20 นาที ในฤดูหนาวจะมีผู้คนมาเล่นสกีมากมาย สำหรับคนที่ไม่ถนัดในการเล่นสกี สามารถชมต้นไม้น้ำแข็งได้ที่ภูเขาหิมะ นอกจากนี้ยังมีร้าน "ยามะโนะคาเฟ่ 2237" ที่อยู่บนยอดเขาสูง 2,237 เมตร รวมถึงมุมกาแฟและร้านของฝากยอดนิยมที่ทำจากลินกอนเบอร์รี่ที่ขึ้นในพื้นที่โรปเวย์ตามธรรมชาติ
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟ JR นาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟประมาณ 3 ชั่วโมงจนถึงสถานี JR จิโนะ แล้วเดินทางต่อด้วยรถบัสประมาณ 60 นาที
ทาเทชินะออนเซ็น

ออนเซ็นที่ยอดขุนศึกแห่งยุคเซ็นโงคุเคยมาแช่ตัว
ที่นี่มีออนเซ็นลับของทาเคดะ ชินเง็น ยอดขุนศึกผู้เลื่องชื่อแห่งยุคเซ็นโงคุ ทาเทชินะออนเซ็นเป็นชื่ออีกชื่อของทาคิโนะยุงาวะออนเซ็นที่อยู่ที่เชิงเขาทาเทชินะ เป็นที่รู้จักกันมาแต่โบราณจากการที่มีปริมาณน้ำแร่มากมายและสรรพคุณในการรักษาโรค
ทาเทชินะออนเซ็นมีบ่อน้ำร้อน 4 แห่ง ได้แก่ บ่อน้ำร้อนมิมูโระ, บ่อน้ำร้อนลับของชินเง็น, บ่อน้ำร้อนทาคิโนะยุออนเซ็น และบ่อน้ำร้อนเซริซาวะออนเซ็น บ่อน้ำร้อนแต่ละแห่งจะมีอุณหภูมิระหว่าง 30-67 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับบ่อน้ำร้อน มีสรรพคุณในการบรรเทาโรคทางเดินอาหาร, บรรเทาโรคข้ออักเสบ และรักษาความชุ่มชื้นของผิว
ที่นี่มีบ่อน้ำร้อนมากมายหลายแห่งที่มีสรรพคุณในการรักษาโรค รวมถึงมีธรรมชาติโดยรอบให้ได้ชม โดยเฉพาะฤดูหนาวที่จะมีภาพหิมะขาวโพลน
*การเดินทาง: จากสถานีรถไฟนาโงย่า เดินทางด้วยรถไฟไปสถานี JR จิโนะประมาณ 3 ชั่วโมง จากนั้นเดินทางต่อด้วรถบัสอีก 30 นาที
NEWS

ひえ冷えゴンドラ🚠 今朝の千畳敷は、マイナス5℃!! 1日中、雪が降っていました、、冬に逆戻り❄️ 朝一のゴンドラは、 雪と氷を身にまとい、キンキンに冷えてました🥶 4月28日から5月2日までの間、 ホテル千畳敷周辺で約30センチの降雪☃️ 雪崩などには、お気をつけください⚠️ #駒ヶ岳ロープウェイ #ホテル千畳敷 #中央アルプス #木曽駒ヶ岳 #千畳敷カール #宝剣岳 #三ノ沢岳 #空木岳 #駒ヶ根高原スキー場 #長野県 #伊那谷 #駒ヶ根市 #宮田村 #飯島町 #中川村 #伊那市 #木曽 #ご来光 #登山 #登山好きな人と繋がりたい #スノーシュー #ザラメ雪 #バックカントリー #こまかっぱ #nagano #japan #snow #snowtraveljapan
早朝の車窓より🚠 #ロープウェイ #ホテル千畳敷 #中央アルプス #木曽駒ヶ岳 #千畳敷カール #宝剣岳 #三ノ沢岳 #空木岳 #駒ヶ根高原スキー場 #長野県 #伊那谷 #駒ヶ根市 #宮田村 #飯島町 #中川村 #伊那市 #木曽 #ご来光 #登山 #登山好きな人と繋がりたい #高山植物 #こまかっぱ #nagano #japan #snow #snowtraveljapan #星空 #駒ヶ岳ロープウェイ#ご来光
昨晩の「世界の果てまでイッテQ」 宝剣岳ご来光登山企画ご覧になりましたか?? みやぞんさんの面白さと綺麗な景色を見ることができてよかったです✨ また、カレンダープロジェクトに見事採用され、私たちスタッフも驚いています😳 みやぞんさん、イッテQ登山部のガイドのみなさんと記念に写真を撮っていただきました。 みなさん笑顔が素敵でした!! (1枚目) 中央:みやぞんさん(ANZEN漫才) 両側:当社スタッフ (2枚目左から) 井坂道彦さん 奥田仁一さん 貫田宗男さん 倉岡裕之さん 成田賢二さん ※写真撮影時のみマスクを外しております😷 イッテQの撮影スタッフのみなさまお越しいただきありがとうございます😌またのお越しをお待ちしております! なお、今回の雪山登山は山岳ガイド指導のもと行われております。雪山登山を計画されている方は入念な準備と装備をご用意のうえ、お越しいただきますようお願いいたします。 #千畳敷カール #駒ヶ岳ロープウェイ #ホテル千畳敷 #イッテQ #登山部 #ご来光 #みやぞん #カレンダー #登山 #雲海 #別世界 #2612m #長野 #中央アルプス #雪 #雪山 #雪山登山 #木曽駒ヶ岳 #宝剣岳 #2931m #空木岳 #雪景色 #cafe #nagano #japan #snow #snowtraveljapan

2021.7.18 今年は、数年に一度咲く(群生する)と言われている「コバイケイソウ(写真の白い花)」の当たり年です💐 4連休頃まで、お楽しみいただけるかと思います⛰ #ロープウェイ #ホテル千畳敷 #中央アルプス #木曽駒ヶ岳 #千畳敷カール #宝剣岳 #三ノ沢岳 #空木岳 #駒ヶ根高原スキー場 #長野県 #伊那谷 #駒ヶ根市 #宮田村 #飯島町 #中川村 #伊那市 #木曽 #ご来光 #登山 #登山好きな人と繋がりたい #高山植物 #こまかっぱ #nagano #japan #snow #snowtraveljapan #星空 #駒ヶ岳ロープウェイ#コバイケイソウ #高山植物

そりコース準備中! やっとコース内のコンディションが整いました◎ 8日(土)9日(日)、そりコースをOPEN予定です🎈 写真は、急斜面にみえますが、 お子様も安心して楽しめるコースです❄️ #駒ヶ岳ロープウェイ #ホテル千畳敷 #中央アルプス #木曽駒ヶ岳 #千畳敷カール #宝剣岳 #三ノ沢岳 #空木岳 #駒ヶ根高原スキー場 #長野県 #伊那谷 #駒ヶ根市 #宮田村 #飯島町 #中川村 #伊那市 #木曽 #ご来光 #登山 #登山好きな人と繋がりたい #スノーシュー #ザラメ雪 #バックカントリー #こまかっぱ #nagano #japan #snow #snowtraveljapan
2021.9.19 台風のあとに、、、 紅葉のようす🍁 #千畳敷カール #駒ヶ岳ロープウェイ #ホテル千畳敷 #紅葉 #登山 #ナナカマド #ダケカンバ #雲海 #秋雲 #千畳敷ブルー #別世界 #雲と雲の間 #2612体験 #秋晴れ #長野 中央アルプス #木曽駒ヶ岳 #宝剣岳 #三ノ沢岳 #空木岳 #駒ヶ根高原スキー場 #長野県 #伊那谷 #駒ヶ根市 #宮田村 #登山 #登山好きな人と繋がりたい #nagano #japan #snow #snowtraveljapan